|
5/8/2018
|
|
|
13/7/2018
|
|
|
19/6/2018
|
|
|
17/6/2018
|
|
|
6/6/2018
|
|
|
28/3/2018
|
|
|
12/12/2017
|
|
|
22/11/2017
|
|
|
10/11/2017
|
|
|
29/10/2017
|
|
|
12/10/2017
|
|
|
6/10/2017
|
|
|
6/9/2017
|
|
|
17/4/2017
|
|
|
26/3/2017
|
|
|
21/3/2017
|
|
|
18/2/2017
|
|
|
12/2/2017
|
|
|
18/1/2017
|
|
|
9/1/2017
|
|
|
|
|
|
Kangi 15/02/2010 Carnival in Venice 1--เริ่มต้นแบบไม่ได้ตั้งใจ
Rimini, Italy อุณหภูมิ 3 องศาเซลเซียส แดดอ่อนๆ ตลอดวัน
มาแล้วจ้า ตามคำสัญญาว่าจะมาเล่าเรื่องทริป Venice ให้ฟังกัน ทริปนี้ถือว่าไม่ได้ตั้งใจและวางแผนไว้ล่วงหน้าเลย เพราะก่อนหน้านี้ที่รักบอกว่า เราคงไปกันไม่ได้ เพราะเมืองแถวเวนิชหิมะตกหนัก แถมคนเยอะมากเราคงไม่สามารถหาที่จอดรถได้ เลยเปลี่ยนแผนที่จะไปงาน Carnival ที่เมือง FANO เมืองที่ไม่ไกลจากบ้านเราแทน แต่ความสวยงามคงสู้ Venice ไม่ได้ แต่วันเสาร์เราตื่นมาตีห้า ก็ยังไม่ยอมปลุกที่รัก ปล่อยให้นอนต่อไปจนถึง 7 โมง เพราะคิดว่าจะไป FANO กันไม่ไกลมาก ใช้เวลาไม่นาน แต่พอที่รักตื่น เราบอกวันนี้แดดออกจะไปเที่ยว Carnival ที่ FANO กันไหม ที่รัก็ลองมาหาข้อมูลใน Internet ดู ปรากฎว่าที่ FANO กับ CENTO ไม่มีในวันเสาร์ มีในวันวาเลนไทน์ แต่ที่มีทุกวันคือ Venice
สรุปรีบ Print แผนที่แล้วเดินทางกันเลย แต่กว่าจะแวะหาอะไรดื่มที่ร้านกาแฟ แถมเสี่ยงโชคเล็กน้อยได้มา 20 ยูโร เราเลยคิดว่าวันนี้เราเดินทางโชคดีแน่ๆ ก็ออกเดิินทางกันเลย ออกจาก Rimini 9.00 น. ระยะทางไป Venice ประมาณ 300 กิโลเมตร ใช้บริการ Speed Way เส้นทาง Rimini-Bologna-Ferrara-Padova-Venezia
 ก่อนออกจากบ้าน ยิ้มแย้มแจ่มใสจะได้ไปเที่ยว
 ที่รักขับรถไป ร้องเพลงปานไปแบบไม่ได้ศัพท์แม้แต่คำเดียว
ระหว่างทางมีตือนเรื่องหมอกลงหนาตลอดเส้นทาง แต่เราก็ไม่หวั่นขับรถตรงกันไป Venice ที่รัก speed สุดๆ เพื่อให้เราไปถึงเวนิช ให้เร็วที่สุด เพราะอย่างน้อยก็ให้ดู Carnival ช่วงบ่าย ส่วนช่วงเช้าคงพลาดแน่นอน แต่ดูโปรแกรมจาก iphone มี Carnival จนถึงห้าทุ่ม แต่แล้วที่รักก็พาเราหลงทางจนได้ ทั้งที่ใกล้จะถึงเวนิชอยู่แล้ว เพราะหมอกลงหนา เรามองไม่เห็นข้อมูลข้างทาง คราวนี้ด้วยความที่อยู่บน speed way ไม่มียูเทิร์น เลยต้องขับกันไปเรื่อยๆ ประมาณ 50 กิโลเมตร กว่าจะหาทางออกจาก speed way ได้ นี่คือข้อเสียของการใช้ Speed way ในอิตาลี แต่สุดท้ายเราก็หาทางกลับมาเวนิชจนได้ หลังจากเสียเวลาไปเกือบชั่วโมง
 หมอกขาวโพลนประมาณนี้เลยล่ะ
 หลงเข้าไปในเมืองนี้
 วิวสวยๆ ข้างทาง(รึเปล่าเนี่ย)
 เห็นสัญลักษณ์แบบนี้แสดงว่าเข้าเขตแดน Venice แล้ว
 สะพานข้ามไปสู่เวนิช สองฝั่งเป็นทะเลจ้า
 เกือบถึงที่หมายแล้ว ดีใจๆ เห็นวิวเวนิชด้านล่างกันรึเปล่าจ๊ะ
แต่พอมาถึงปรากฎว่าตึกที่เราหวังไปจอดรถมีคนรอจอดรถประมาณสามกิโลเมตร เลยเสี่ยงอ้อมไปดานหลัง Piazzale Romaซึ่งมีบริษัทรับจอดรถอีกบริษัทหนึ่ง ปรากฎว่าที่จอดรถเต็ม ที่รักเลยวนรถกลับมาใหม่แต่ไม่มียูเทิร์น ตำรวจก็ดักตลอดเส้นทาง ที่รักขับรถออกจากเวนิชไปประมาณ 25 กิโลเมตร กว่าจะหาทางวนกลับมาเวนิชอีกรอบ และมาต่อแถวรอจอดรถ ซึ่งในขณะนั้นเต็มหมด ต้องรอคิวว่าง และน่เป็นครั้งแรกที่เราเราจอดรถกันเกือบสามชั่วโมง จากเที่ยงกว่าๆ ไปจนถึงบ่ายสาม เป็นการรอคอยที่ทรมานมากๆ เพราะเราปวดฉี่สุดๆ จะวิ่งไปหาห้องน้ำก็ไกลเหลือเกิน ก็ได้แต่ทนและทน เท่านั้น จนเกือบบ่ายสามเราก็ได้จอดรถแต่เป็นชั้น 10 เจ้าหน้าที่บอกมีที่ว่าง แต่พอขึ้นไปจริงๆ วนอยู่ห้ารอบ เพราะมีรถจากเยอรมันสามคัน กินพื้นที่จอดรถคนอื่น ทำให้เราไม่สามารถจอดรถได้ จนที่รักเกิดอาการโมโหไปเลย
 ถ่ายวิวด้านล่าง ตอนรอเข้าคิวจอดรถ
 อีกไม่กี่คันก็จะถึงคิวเราแล้ว การรอคอยอันยาวนาน
 ดูอัตราค่าจอดรถที่นี่ซะก่อน ไม่เกิน 24 ชั่วโมง คิด 28 ยูโร ประมาณ 1400 บาท คิดตั้งแต่น่าทีแรกที่จอด อัตราเดียวกันหมด
 ได้บัตรจอดรถมาแล้ว ขึ้นไปชั้น 10 กันเลย
 วิวจากลานจอดรถชั้น 10
 โคมไฟสวยๆ ในร้านกาแฟ
 คาปูชิโน่แสนแพง มากกว่าเมืองเราถึงเท่าตัว นี่ล่ะคือ Venice ทุกอย่างแพงหมด
 บัตรโดยสารเรือไปยังใจกลางเมืองเวนิช San Marco
 พร้อมแล้วไปรอขึ้นเรือกันเลยจ้า
 เริ่มเห็นบรรยากาศ Carnival ตั้งแต่ท่าเรือกันเลย
 ในที่สุดเราสองคนก็ได้อยู่บนเรือสักที เย้ๆ
ติดตามตอนต่อไปนะเพื่อนๆ จะพาไปเที่ยวเวนิชกัน ไดต่อไปจะเป็นรูปล้วนๆ ใครเน็ตช้าคงต้องขออภัยนะจ๊ะ
|
New entry diary:
Old entry Diary:
|