maita 16/06/2012 ตามหาต้นไม้ใหญ่ ( Le Chene des six freres)
เมื่อนานมาแล้วสุดที่รักเห็นโฆษณาบนรถไฟ
(แต่ไม่นานมากนะ อิอิ)

เห็นว่าอยู่ Dourdan ซึ่งก็ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่
ก็เลยอยากจะชวนอีแก่ที่บ้านไปดูต้นไม้ใหญ่...เผื่ออารมณ์จะดี ไม่บ่นมาก ๕๕๕
พยายามหาในอินเตอร์เน็ตว่าอยู่ตรงไหนของ Dourdan ก็หาไม่เจอ
ไม่เจอไม่เป็นไร ไปหาเอาดาบหน้า (ไม่ยอมตายดาบหน้าอิอิ)
ขับรถพาข้อยอ้อมไปอ้อมมา ขึ้นเขาลงห้วย
หาไม่เจอค่ะ ไม่มีป้ายบอกอะไรใดๆทั้งสิ้น
ไม่เป็นไรเดี๋ยวเข้าเมืองไปถาม
ในเมืองมีงานอีก คนเยอะมากกกกกกก เดินตามถนน
ทั้งร้านขายของ โชว์มายากล อยากดูมาก( ไม่สนต้นไม้แล้ว)
แต่หาที่จอดรถไม่ได้ ริมถนนหนทางไม่มีที่จอดจริงๆ
สุดท้ายก็ต้องกลับบ้านมือเปล่า
ที่เล่ามาทั้งหมดก็เป็นเหตุการณ์เมื่อนานมาแล้ว (อาทิตย์ต้นเดือนที่ผ่านมา)
ความตั้งใจที่จะเห็นต้นไม้ใหญ่ก็ยังอยู่
Le Chene des six freres
Le Chene คือ ต้นโอ๊ก (ทำถังบ่มไวน์ดีนักแล)
ตอนที่สามีโฆษณาชวนเชื่อให้ไปดูก็แปลให้ฟังว่า
six freres คือ พี่ชายหกคน
ก็เลยบอกสุดที่รักไปว่าต้องมีหกกิ่งใหญ่ในต้นเดียวแน่ๆเลย
สามีก็หารูปมาดูนับไปนับมาได้หกกิ่งใหญ่พอดี
ดีใจมาก มีเมียฉลาด ๕๕๕๕๕๕๕
,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
วันนี้ฤกษ์ดีฝนตกพรำๆ สามีชวนไป Dourdan (โดร์ดง ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง )
สำหรับอังแล้วคำว่า โดร์ดงแปลว่าเค้กอร่อย บรรยากาศดีด้วย
กินเค้กไปดูปราสาทไปด้วย บอกได้คำเดียวว่า ไฮโซ เด้อค่ะ อิอิ

ถ้าไม่อยากกินเค้กจะนอนดูหนังที่ห้องแล้วอากาศแบบนี้
ขับรถไม่นานก็ถึง Dourdan
ฝนหยุดค่ะ

ปราสาทด้านขวา ร้านเค้กด้านซ้าย(มองไม่เห็นหรอก อิอิ)
หน้าปราสาทจะเป็นออฟฟิศสำหรับนักท่องเที่ยว

ไหนๆก็มาถึงที่..สุดที่รักเข้าไปถามเรื่องต้นไม้ใหญ่
มาดามก็เอาแผนที่ขึ้นมาอธิบาย ค่าแผนที่หนึ่งยูโรสี่สิบ
(ปกติเขาแจกฟรีเด้อค่ะ)

เสร็จจากออฟฟิศข้อยไม่รอใคร...เดินนำไปร้านเค้ก อิอิ
รีจีสถามไม่เร็วไปเหรออัง
เร็วแร็วอะไรกันสี่โมงเย็น เวลากำลังดีสำหรับกินเค้ก
เค้กสำหรับคุณสามี

เอแคลร์กาแฟสำหรับข้อย

อร่อยกำลังดี
กินไปก็ต้องมองปราสาทไปด้วย
เดี๋ยวไม่ไฮโซ อิอิ
ปราสาทเห็นบ้างไม่เห็นบ้างแต่ที่เห็นแน่ๆ ที่จ่ายเงินสำหรับจอดรถ
ถามพลเมืองฝรั่งเศส คุณไม่จ่ายค่าจอดรถเหรอ?

มีมาถามเราอีก "ต้องจ่ายด้วยเหรอ?" ข้อยเลยชี้ให้ดู
รีบเลยกลัวถูกค่าปรับ จ่ายไป ๕๐ เซนต์
เห็นถ่ายรูปนี้ รีจีสถามจะถ่ายทำไม เดี๋ยวเราก็ได้เห็นของจริง

ใครจะไปรู้ว่าจะเห็นหรือไม่เห็น คราวที่แล้วก็ทีหนึ่งแล้ว อิอิอิอิ
กินเสร็จก็ออกตามหาต้นไม้ใหญ่กัน
ออกมาได้สักพัก จีพีเอสพาหลง ตอนแรกก็ชี้มาทางนี้พอเข้ามาบอกให้กลับ
มองหน้ากันเอางัยดี ...อังบอก
ตรงไปเลยที่รักไปดูสิมีอะไรข้างหน้า ถ้าไม่โอเคค่อยกลับรถก็ได้

ขับตรงไปเรื่อยๆ
อ้าววววว เจอที่จอดรถที่พอดีเลย

มาถึงแล้ว แต่-งง-มาก
ici ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ที่นี่
แล้วที่นี่คือที่ไหน ๕๕๕

Foret de l'Ouye
เราอยู่ตรงลูกศรสีชมพู ไม่รู้จะไปทางไหนดี
ถามผลเมืองฝรั่งเศสว่า ทิศเหนืออยู่ทางไหนที่รัก
สามีข้อยตอบไม่ได้

ข้อยก็ไม่รู้เหมือนกัน ตัดสินใจเดินนำเลย

ทางก็เป็นแบบนี้ค่ะ

ยิ่งเดินก็ยิ่งไกล มองหาใครสักคนก็ไม่มี
สามีชวนกลับ

กลับก็กลับค่ะ มาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกัน
ไปอีกทางแล้วกัน

เดินไม่ถึงห้านาที
สี่แยกค่ะ

ไม่รู้จะ ขวา ซ้าย หรือ ตรงไปดี
ตัดสินใจไปขวาค่ะ

เดินได้สักพักใหญ่ๆ

สี่แยกอีกแล้ว มองหน้ากัน
รีจีสบอกตรงไป ถ้าเราหลงจะได้กลับถูก
กรรม!!! เข้าป่ามาพูดเรื่องหลงเหลงอะไรกันนน
คนก็ยิ่งกลัวๆ

ตรงไปก็เป็นแบบนี้
ไม่มีรอยคนเดินก่อนหน้าเลย ยิ่งเดินก็ยิ่งคิดยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว

พอสุดป่าก็ดีใจ เหมือนเราจะอยู่ไม่ไกล
ออกไปก็ไม่รู้จะขวาหรือซ้าย ตัดสินใจครั้งที่ร้อยไปขวา

ขวาก็ขวาด้วยกัน
รู้สึกทางเล็กลงเล็กลงยังไงไม่รู้

เดินไปก็กลัวนะคะ กลัวเพราะเงียบมากแล้วก็ไม่มีใครเลย
พอกลัวมากๆเข้า ยื่นมือไปขอจับมือสามีเดิน ๕๕๕

สองคนผัวเมียปกติเหมือนชาวบ้านเขาที่ไหน วันฝนตกอยากจะเดินป่า
เดินตอนเช้าก็คงไม่เท่าไหร่แต่พากันมาเดินตอนห้าโมงเย็น
ทากก็เยอะด้วย

ตัวก็ใหญ่ แรกๆก็โอเค
ยิ่งเดินก็ยิ่งเยอะ ขนลุกขนพอง
หอยทากก็เยอะพอกัน

ตัวใหญ่มากกกก ปกติก็ไม่ยี้นะ
แต่วันนี้ไม่ไหว ดูลายที่ตัวสิ ยี้...ไม่ไหวจริงๆ
เดินไปกระโดดหนี้ทากไป สุดท้ายเราก็เจอ
เจอป้ายค่ะ

เดินมาเป็นชั่วโมงก็ยังต้องเดินอีกต่อไป

เดินจนเกือบสุดทาง
แล้วเราก็ได้เจอหกพี่น้องจริงๆ

ดีใจมากกกกกกกกหามานาน หายากด้วย
ขอใกล้ๆหน่อยมีหกพี่น้องจริงไหม?

ใกล้อีกเข้ามาอีกนิ๊ดดดดดด


หกพี่น้องอายุ ๕๐๐ ปี สูง ๓๓ เมตร กว้าง ๖.๗๐ เมตร

แดดตอนเย็นแจ่มมาก

สามีพยายามเอาโทรศัพท์ถ่ายรูป
เมียเดินวนหลายรอบหามุมสวยๆถ่ายรูป
บางมุนก็ไม่ผ่านอย่างแรง อิอิ

ทั้งดูด้วยตา สัมผัสด้วยใจ (มือด้วย)
เป็นที่พออกพอใจ เราก็กลับ

ก่อนกลับสามีเดินออกไปดูรอบๆ

ทุ่งหญ้าเขียวน่ากินเชียว ๕๕๕

เห็นแต่ยอด

ขากลับมาดามอังไม่อยากจะไปทางเดิม
ดูจากแผนที่แล้วอีกทางใกล้กว่า

ทางลัดเด้อ (คิดว่า)
นึกขึ้นได้ถามพลเมืองฝรั่งเศส"ที่รักต้นไม้เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ?"
สามีหยุดเดินแล้วมองหน้า ต้นไม้ที่ไหนมีเพศ?
(คงคิดแหละเมียตรูบ้าไปแล้ว ๕๕๕)
มองหน้ากลับ "คุณแน่ใจนะว่าุคุณเป็นคนฝรั่งเศส ไม่ได้ต่างด้าวปลอมตัวมา
คุณไม่รู้เหรอ ภาษาของคุณแบ่งเพศกับทุกสิ่งอย่าง"
สามีตอบ "ต้นไม้เป็นผู้ชาย"
เรื่องนี้ผิดที่คนถามค่ะ ที่จริงแล้วอังต้องถามว่า
ต้นไม้เป็น Masculin or Feminin
Masculin แปลว่าเพศชาย Feminin แปลว่าเพศหญิง
แต่อังดันไปถามว่า
ต้นไม่เป็น Homme or Femme
Homme แปลว่าผู้ชาย Femme แปลว่า ผู้หญิง
เราผิดก็ให้เงียบไว้ค่ะ แล้วก็เดินต่อไป อิอิ

เกือบสองกิโล สู้ๆ (โว้ยยยยย อิอิ)
เดินไปหนามเกี่ยวบน

เกี่ยวล่าง

ทางก็เล็กลงๆ
มีต้นไม้ล้มปิดทางด้วย พลเมืองฝรั่งเศสถาม กลับทางเดิมไหมอัง?
มาจนปานนี้แล้ว เดินหน้าโล้ด

เดินไปก็ถ่ายรูปไป

รีจีสเห็นหยุดถ่ายรูปบ่อย(เกิ๊นนน) ถามข้อย "อังคืนนี้จะนอนในป่าใช่ไหม?? "
ฝรั่งนี่ไม่รู้เรื่องเลย เข้าป่าแล้วยังจะมาพูดอะไรแบบนี้
ไม่รู้เลยหรืออย่างไรว่า้ข้อยกลัวมาก เดินไปก็สวดมนต์แผ่เมตตาไปด้วย
"เมตตัญ จะ สัพพะโร กัสมิง มานะ สัมภาวะเย อัปปะริมานัง ...
เมตตา คุณะณัง อะระหัง เมตตา"
สุดทางดีใจมาก คงใกล้ถึงแล้ว

ไปทางขวาค่ะ

เดินไปเรื่อยๆ อ้าวอะไรกันเนี่ย ทางวนเข้าป่าอีกแล้ว

ทางเดินบางช่วงก็แฉะ

มาถึงทางแยกกลางป่า เครียดเลยไม่มีในแผนที่ด้วย

จะตรงดีหรือซ้ายดี ผู้นำบอกตรงอังตรง

ตรงไปค่ะ ทางดูเล็กลงแล้วก็ใจหาย
โชคดีอย่างว่าีมีแดด ถ้าฟ้าครึมๆมืดๆ ไม่อยากนึก

มีทางก็เดินไปค่ะ

มาถึงทางแยกอีกแล้ว อังบอกที่รักซ้ายเลยๆ

ที่รักของข้อยไม่สนใจ
เดินทะลุหนามออกไปดูให้แน่ๆ
ภาพที่เห็น

ไม่ต้องนอนในป่าแล้วคืนนี้
สรุปแล้วไปขวาค่ะ

ดีนะว่าสามีไม่เชื่อถ้าเชื่อก็คงอีกนานกว่าจะหาทางออกได้
ดีไม่ดีเดินเข้าป่าอีกรอบ อิอิ
เราเดินออกมาทางเดิมที่เดินตอนแรก มาดามอังรีบพูดเลย
"เห็นไหมที่รัก ฉันบอกแล้วว่าทางนี้ก็ไปได้"
รีจีสกล่าวมาลอยๆ "เมื่อกี่ใครบอกให้ไปทางซ้ายนะ"
แม้ ... คนเราก็พลาดกันได้เนอะ อิอิ

นึกว่าต้องนอนในป่าแล้ว อิอิ

ไม่รู้ไปเดินป่าหรือลุยโคลน

กลัวรถสกปรก ไล่ให้ข้อยมาถูรองเท้ากับหญ้า
แล้วเราก็กลับบ้านเด้ิอค่ะ
ลองเปิดจีพีเอสดู โอ้ออออ .... ตอนมาไม่รู้ทาง ขากลับรู้ค่ะ

จีพีเอสอะไรก็ไม่รู้ ต้องให้พามาสำรวจเส้นทางก่อน ๕๕๕
ขับรถมาเรื่อย
มีมอไซค์แซงไปแล้วเขาก็เอาขาชี้ออกมา

กำัลังจะอ้าปากถามว่าเขาด่าเราเหรอ
สามีผู้รู้ใจเมียพูดขึ้นมาก่อนเลยว่า เขาขอบคุณที่ให้ทาง
ยื่นเท้าออกมาขอบคุณ วัฒนธรรมของใครก็ของใครเนอะ อิอิอิ
ทุ่มกว่าๆใกล้ถึงบ้าน

แดดแจ่มมากผิดกับขาไปลิบลับ
ON VIENT DE LOIN POUR L'ADMIRER DE PRES
,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
|